สอน WordPress ตั้งแต่พื้นฐาน (2021) ทำตามได้ทันที
• Wordpress.com
เป็นบริการเว็บไซต์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมี Blog เป็นของตัวเองหรือผู้ที่เริ่มต้นทดลองใช้งานเว็บไซต์ เพราะเพียงแค่สมัครสมาชิกกับทาง Wordpress.com ก็ใช้งานได้ฟรีทันที แต่จะมีความยืดหยุ่นน้อย ทั้ง Theme และ Plugin ไม่สามารถนำจากภายนอกมาติดตั้งได้ ส่วนชื่อของเว็บไซต์ จะสามารถใช้ได้ในรูปแบบซัพโดเมน คือ "ชื่อบล็อกของเรา.wordpress.com"
แต่ว่าเราสามารถอัพเกรดความสามารถของเว็บไซต์ได้โดยเสียเงินเพิ่ม (ชำระเป็นรายปี) ซึ่งมีให้เลือกหลายแพลนตามความต้องการและตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น เช่น จดชื่อโดเมนเป็นของตัวเอง, ปรับเปลี่ยน Theme ให้มีลูกเล่นมากขึ้น, เพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล, ลง Plugin เพิ่ม เป็นต้น
• Wordpress.org
เป็นซอฟต์แวร์ที่ให้เราดาวน์โหลดได้ฟรี เพื่อมาติดตั้งที่ Hosting (ที่สำหรับเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ไว้บนอินเตอร์เน็ต) สามารถนำไปสร้างเว็บไซต์ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งหน้าเว็บ หรือการนำ Theme และ Plugin จากภายนอกมาติดตั้ง หรือการทำเว็บไซต์แบบ E-commerce ที่มีระบบตะกร้าสินค้า เป็นต้น
ปัจจุบันเว็บไซต์ส่วนใหญ่ก็ใช้ WordPress ในรูปแบบนี้ ทั้งนี้เราต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่นๆ ต่างหาก ทั้งการจดชื่อโดเมนและการเช่า Hosting ซึ่งค่าบริการก็ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของ Hosting รวมถึงค่าใช้จ่ายในการออกแบบเว็บไซต์ในกรณีที่เราไม่สามารถสร้างได้ด้วยตัวเอง แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมเลือกซื้อ Theme จากเว็บไซต์ Themeforest.net เพราะมีรูปแบบให้เลือกมากมายและมีราคาไม่สูงนัก ซึ่งขั้นตอนการติดตั้งและใช้งานก็ไม่ยุ่งยากจนเกินไป สามารถศึกษาและทำได้เองตามคู่มือจาก Theme ที่ซื้อมา
เพิ่มพลัง WordPress ด้วย Plugins
ถ้าเปรียบเทียบกับ Smartphone ในปัจจุบัน Plugins เปรียบเสมือน App ที่เราติดตั้งลงไปในโทรศัพท์ครับ ซึ่ง โทรศัพท์ของเราเปรียบได้กับ WordPress นั่นเอง ซึ่ง App เหล่านี้ จะทำให้การทำงานของโทรศัพท์ หลากหลายขึ้น และ มีประโยชน์มากขึ้นครับ
ถ้าพูดแบบเป็นทางการก็ คือ Plugins คือ Software เสริม ที่จะเพิ่ม ฟังก์ชั่น หรือ เพิ่มความสามารถให้กับ WordPress ของเราได้ครับ Plugins เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ WordPress เริ่มมีชื่อเสียง และ คนใช้จำนวนมาก เพราะ Plugin ทำให้ WordPress สามารถนำไปทำเว็บไซต์ ได้หลากหลายแนวขึ้นครับ
Plugin คืออะไร แล้วเราจะติดตั้ง Plugin ได้อย่างไรบ้าง ในรูปแบบวีดีโอ
วิธีการติดตั้ง Plugins
ให้เราไปที่เมนู Plugins แล้วก็ Add New ได้เลยครับ จากนั้นจะเห็นหน้าจอสำหรับการค้นหา Plugins สำหรับติดตั้งครับ Plugin ที่เราสามารถค้นหาเจอได้ใน WordPress เราสามารถนำมาใช้ได้ฟรีครับ
ในปัจจุบัน Plugins บางตัว เราสามารถใช้ได้ฟรี แต่ถ้าต้องการใช้ Feature หรือ ความสามารถของ Plugins ที่ Advance มี Plugin บางตัวจะให้เราซื้อครับ เราเรียกว่า Premium Plugins ครับ
วิธีการค้นหา และ ติดตั้ง Plugin ใน WordPress
เวลาเราค้นหา Plugins ที่จะลองนำมาติดตั้ง ให้พิจารณาสิ่งต่อไปนี้ครับ
-
Rating หรือว่าดาว ให้เราดูดีๆครับ ว่า 5 ดาวที่เราเห็น มีคนรีวิวกี่คน เช่น ห้าดาว ที่มีคนรีวิวร้อยคน ย่อมดีกว่า ห้าดาว ที่มีคนรีวิวแปดคนครับ
-
จำนวนเพื่อน หรือ คนที่ใช้งาน Plugins ตัวนี้อยู่ ยิ่งเยอะยิ่งดีครับ แนะนำ 5,000 ขึ้นไปครับ อย่าน้อยกว่านั้น เพราะถ้าคนใช้น้อย มีความเสี่ยงว่า Plugin นั้นยังไม่ได้ถูกทดสอบโดยคนจำนวนมากครับ
-
อัพเดทครั้งล่าสุดเมื่อไร ให้หลีกเลี่ยง Plugins ที่ไม่อัพเดทครับ เช่นอัพเดทล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว แบบนี้เราจะไม่เลือกครับ ยิ่งอัพเดทบ่อยยิ่งดีครับ เพราะจะได้ปิดช่องโหว่ครับ
-
เวลาที่เราติดตั้งไปแล้ว เราต้องเทสดูด้วยครับว่า Plugin ที่เราใช้ทำงานได้บนเว็บของเราไหม และ อย่าลืมที่จะอ่านคู่มือของ Plugins เพิ่มเติมด้วยครับ
ขั้นตอนการติดตั้ง Plugin ใน WordPress ง่ายๆ คือ
-
ไปที่ Plugins แล้วไปที่ Add New
-
ค้นหา Plugin ที่ต้องการ โดยใช้ Keyword ที่เราต้องการค้นหา
-
คลิก Install Now เพื่อติดตั้ง Plugin
-
ติดตั้งเสร็จแล้ว กด Activate เพื่อเปิดการใช้งาน Plugin ได้เลย
ตัวอย่างการใช้งาน Plugins Scroll Top ใน WordPress ในรูปแบบวีดีโอครับ
การนำหมวดหมู่ ไปใส่ Menu
เราสามารถ ที่จะนำหมวดหมู่ ไปใส่เมนูได้ด้วยครับ เพื่อให้คนดูของเราคลิกเข้าไปใน หมวดหมู่ เพื่ออ่านบทความที่อยู่ในหมวดหมู่นั้นได้ครับ
การนำหมวดหมู่ ไปใส่ในเมนู
ให้เราเริ่มจากการ ไปที่เมนู Appearance แล้วไปที่ Menus ครับ จากนั้น ให้เลือกเมนูที่เราต้องการแก้ไข แล้วเปิดกล่อง Categories ขึ้นมา จากนั้น เลือกไปที่ Tab View All ในกล่อง Categories ครับ เราจะเห็นว่ามีหมวดหมู่ให้เราเลือกตามที่เราสร้างไว้ ให้เรา เลือก หมวดหมู่ที่เราต้องการ นำไปใส่เมนู จากนั้น คลิก Add to Menu ได้เลย เสร็จแล้ว ก็อย่าลืม Save Menu ด้วยนะครับ
การใช้งาน Tag ใน WordPress
Tag คือการเน้นคำสำคัญ ที่มีอยู่ในหน้าเว็บไซต์ของเรา เปรียบเสมือน เวลาที่เราใช้ Hashtag บน Social Media ครับ แต่สำหรับบนเว็บไซต์แล้ว เราควรจะเน้น คำสำคัญที่อยู่บนหน้าเว็บไซต์ของเราจริงๆ เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้ เว็บไซต์ของเราครับ
วิธีการใส่ Tag ในบทความ
ให้เราเข้าไป แก้ไขบทความของเราได้เลย จากนั้น ไปที่ Tab Document ของ Block Editor เปิดกล่องที่ ชื่อว่า Tag ขึ้นมา แล้วใส่คำที่ต้องการแล้วกด Enter ได้เลยครับ